อาทิตยรังสีพูดด้วยความเข้าใจ “คุณแทนเค้าเป็นฝ่ายจัดหาทุน ก็ต้องวิ่งหาเงิน ไอ้เรามันเป็นฝ่ายใช้เงิน บางทีก็ไม่ค่อยเข้าใจเค้าเท่าไหร่ ... ฉันเองก็ยังไว้ใจพรานสมถึงได้เดินตามเข้าป่า จะไปดูร่องรอยของโจรตามที่เค้าบอก สุดท้ายก็ไม่มีอะไร ถ้าคุณชายไปช่วยไม่ทัน ก็คงไม่ได้กลับมา แต่ก็เอาเถอะ ไม่ต้องฟื้นฝอยหาตะเข็บ เรามาช่วยกันคิดดีกว่าจะทำยังไงกันต่อ” ธราธรนึกได้ หยิบแผนที่ออกมาจากกระเป๋าสะพาย “นี่ครับ แผนที่ของลุงอ่อนศรี วันที่เกิดเรื่องผมเห็นมันตกอยู่ที่พื้น เพื่อความปลอดภัย พวกเราเลยไม่เก็บไว้ที่เดิม” “งั้นก็เก็บไว้ที่คุณชายใหญ่ต่อไปก็แล้วกัน เพราะผมคงจะไปสำรวจเองไม่ไหว ต้องมอบให้คุณชายใหญ่กับอาจารย์ชินกรเข้าไปสำรวจ แล้วก็รีบทำเรื่องเสนอทางกรม ส่งคนมาบูรณะโดยด่วน ก่อนที่จะมีใครไปถึงที่นั่นและขนเอาสมบัติชาติไปเสียหมด” “ได้ครับ ผมจะปรึกษากับอาจารย์ชินกร ถ้าพร้อมเมื่อไหร่จะรีบออกเดินทางกันทันที” “ฝากด้วยนะครับ ฝากคุณชายใหญ่ดูแลทุกอย่างแทนอาด้วยนะ” อาทิตย์จับมือและฝากฝังกับธราธรอย่างมีนัย “ครับคุณอา ผมจะดูแลอย่างดีที่สุด” ธราธรยิ้มตอบให้ความมั่นใจ มีนัยถึงระวีรำไพด้วยเช่นกัน เอ็ดเวิร์ดขู่จะให้เวลาพรานสมและอีริค อีกแค่สองวัน ถ้ายังหาแผนที่ไม่ได้จะหนีกลับกรุงเทพฯ แล้วเลิกทำการค้ากับอีริคทันที ได้เวลาต้องกลับไปทำอาหารเย็นแล้ว แต่เกษรายังไม่มาขึ้นรถ ระวีรำไพยืนชะเง้อมอง ไม่ยอมขึ้นรถเหมือนกัน ชินกรเห็นดังนั้นก็รีบไล่ระวีรำไพให้กลับไปที่แคมป์พร้อมกับพวกอุดม ปิติ มานะก่อน ระวีรำไพจำต้องกลับไปแคมป์ก่อนอย่างเลี่ยงไม่ได้ เวลาเดียวกันนั้น เกษรากำลังนั่งเศร้าอยู่ในปราสาทเพียงลำพัง หญิงสาวคิดว่าถ้าไม่ใช่เพราะระวีรำไพ ธราธรก็คงไม่ชวนเธอมาที่ปราสาทด้วย กลับไปถึงแคมป์ ระวีรำไพรีบลงมือทำอาหาร ธราธรเดินมาเจอระวีรำไพทำอาหารง่วนอยู่คนเดียว จึงรีบปรี่เข้าไปช่วย อุดม ปิติ มานะแอบดูอยู่ห่าง ๆ เห็นธราธรและระวีรำไพช่วยกันทำอาหาร หมุนกันไปมาอยู่ในครัว บางจังหวะมีจะชนกัน แล้วก็หลบเลี่ยงพร้อมหัวเราะขำคิกคัก เหมือนคู่รักช่วยกันทำอาหาร อุดมยิ่งมั่นใจว่าทั้งคู่มีความรู้สึกพิเศษต่อกัน เอ็ดเวิร์ดเดินหงุดหงิดมาเจอเกษราที่ปราสาท จึงถือโอกาสระบายอารมณ์ใส่ เกษราไม่อยู่ในอารมณ์จะทน ก้มหน้าเดินหนีไป เอ็ดเวิร์ดไม่พอใจมาก กระชากแขนเกษราอย่างแรงให้หันกลับมา เอ็ดเวิร์ดบิดแขนเกษราอย่างแรง “พวกแกกล้าดียังไงมาขัดคำสั่งฉัน ฉันจะบอกให้นะ ถ้าเทียบกับประเทศของฉัน พวกแกก็ไม่ต่างไปจากคนป่า ที่พวกแกดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาได้ ก็เพราะเสื้อผ้า ทรงผม ในแบบที่พวกฉันเป็น แต่มันก็แค่เปลือก สมองของแกก็ยังเป็นขี้เลื่อย โง่ แล้วยังจะกล้ามาอวดดีกับฉัน” เกษราใจสั่น หวาดกลัวแบบสุด ๆ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอใครมาพูดแบบนี้ หญิงสาวน้ำตาร่วงไม่รู้ตัว เอ็ดเวิร์ดเห็นว่าข่มได้ก็ยิ่งชอบใจ บิดแขนเกษราแรงขึ้น เกษราร้องลั่นด้วยความเจ็บ เอ็ดเวิร์ดหัวเราะด้วยความสะใจ และทันใดนั้นเองกำปั้นชินกรก็พุ่งเข้าที่หน้าของเอ็ดเวิร์ด เอ็ดเวิร์ดเซล้มไป เกษรารีบสะบัดตัวหลุดออกมา แล้ววิ่งไปหลบหลังชินกร ด้วยสัญชาตญาณชินกรใช้มือโอบไปด้านหลัง เหมือนปกป้องเกษรา ไว้ด้วยความเป็นห่วง เอ็ดเวิร์ดแค้นจัดขู่จะฟ้องหัวหน้าโครงการ ชินกรสวนกลับบอกจะรายงานเรื่องนี้ให้อาทิตยรังสีทราบเช่นกัน และถ้าเอ็ดเวิร์ดยังทำร้ายนักศึกษาอีกก็จะไปแจ้งความ มานิตขับรถกลับมารับคนที่เหลือที่ปราสาทพอดี เอ็ดเวิร์ดขู่อาฆาตชินกร ก่อนเดินหัวเสียไปหามานิต ชินกรมองตามหลังไปด้วยความไม่พอใจ เกษราที่ยืนอยู่หลังชินกรร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัว และอึดอัดที่สะสมมาแต่เช้า เอ็ดเวิร์ดบังคับให้มานิตขับรถพากลับไปส่งที่แคมป์ก่อน ทิ้งให้ชินกรกับเกษราอยู่ที่ปราสาทกันตามลำพัง เกษราร้องไห้สะอื้นไม่หยุด ชินกรค่อย ๆ หันมา มองหน้าเกษรา ที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น แล้วก็ใจอ่อนยวบ เกษราร้องไห้เหมือนปลดปล่อยทุกอย่างในวินาทีนั้นไม่ห่วงว่าต้องแอ๊บแมน เป็นตัวของตัวเอง ชินกรมองแล้วพาลนึกไปถึงเกษรา อย่างเลี่ยงไม่ได้ ชินกรยืนมองเกษราร้องไห้ ใจหายวาบ ในวูบนั้นชินกรไม่ได้คิดถึง “ไอ้ก้อง” แม้แต่น้อยคิดแต่ว่าคนที่ร้องไห้อยู่นี้คือเกษรา และชินกรก็พ่ายแพ้ต่อจิตใจของตัวเองดึงตัวเกษราเข้ามากอดปลอบใจด้วยความสงสารเกษราอยู่ในอ้อมกอดของชินกรแล้วก็ปล่อยโฮออกมา ชินกรยิ่งสับสนหนัก ตอนที่ 12 ระวีรำไพเดินตามหาเกษราไปทั่วแต่ก็ไม่พบ พอดีธราธรเดินผ่านมาเจอ ระวีรำไพรีบปิดแผลไม่ให้ธราธรเห็น ธราธรเองก็กำลังตามหาเกษรา เหมือนกัน เพราะเห็นว่าตอนทานอาหารเกษราก็ไม่อยู่ “ปรางว่า...พี่เกษต้องมีอะไรในใจแน่ ๆ ค่ะ ท่าทางแปลก ๆ ตั้งแต่เมื่อตอนกลางวัน ไม่ยอมพูดไม่ยอมจา เหมือนโกรธใคร พี่ชายใหญ่ทำอะไรให้พี่เกษโกรธหรือเปล่าคะ” “เปล่านะ พี่ไม่ได้ทำอะไรเลย หรือว่า...” ธราธรคิดถึงเรื่องที่คุยกับเกษราเมื่อตอนกลางวัน เกษราเดินกลับมาได้ยินที่ธราธรกับระวีรำไพคุยกันพอดี หญิงสาวชะงักแอบฟัง “พี่ชายใหญ่ถามพี่เกษว่าชอบอะไรบ้าง เหรอคะ” “ก็...น้องปรางบอกว่า พี่ต้องรู้จักน้องเกษ มากกว่านี้ พี่ก็ทำตามที่น้องปรางบอกไงคะ” “แต่ปรางให้พี่ชายใหญ่คอยสังเกตเก็บข้อมูล ไม่ใช่ถามตรง ๆ” “อ้าว...ก็...พี่ต้องทำงานนี่คะ ไม่มีเวลามานั่งสังเกตหรอกว่าใครชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ถ้าพี่ไม่ถามตรง ๆ รับรองว่ากลับถึงกรุงเทพฯ พี่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าน้องเกษชอบอะไร ไม่ชอบอะไร” “แต่การถามตรง ๆ มันก็แสดงให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจได้นะคะ” เกษราหน้าเสีย น้ำตาเหมือนจะไหล ด้วยความผิดหวังและเสียใจ ชินกรเดินมาทักเกษราพอดี ธราธรกับระวีรำไพได้ยินเสียง รีบพากันเดินออกมาหาเกษรา เกษรารู้สึกคลางแคลงใจในตัวระวีรำไพ และยังรู้สึกน้อยใจ ผิดหวังในตัวธราธร จึงเดินเลี่ยงหนีกลับเข้าห้องไป ระวีรำไพรีบเดินตามเกษราไป ธราธรมองตามด้วยความเป็นห่วงและแปลกใจ ชินกรพูดขึ้นอย่างรู้ทัน “คุณชายใหญ่รู้สึกว่าก้องแปลก ๆ ไป มั้ยครับ” “ใช่ครับ มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า” “ที่ก้องเป็นแบบนี้อาจจะเป็นเพราะ...เค้ารู้ความจริงอะไรบางอย่าง และเค้าอาจจะสงสารคุณเกษ ก็เป็นไปได้นะครับ” “สงสารเกษราเรื่องอะไร” “ผมว่า...คุณชายใหญ่น่าจะเป็นคนที่ตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุด” ชินกรเดินเลี่ยงกลับไปที่บ้านพัก ธราธรยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจว่าที่ชินกรพูดหมายถึงอะไร ระวีรำไพเดินตามไปจะคุยกับเกษรา แต่เกษราตัดบทเดินหนีไปอาบน้ำ ระวีรำไพมองตามหลังไป ตาละห้อย ไม่รู้ว่าตัวเองไปทำอะไรให้เกษราโกรธ ระวีรำไพเดินกลับไปกลับมาด้วยความเครียด แล้วเผลอกอดอก มือไปโดนแผลที่แขน ระวีรำไพเจ็บแผล เลยเดินไปค้นหายาทาแผลในกระเป๋าเดินทาง แต่พบเพียงน้ำยาล้างแผล ระวีรำไพทำแผลให้ตัวเองอย่างไม่ถนัด ดูน่าสงสาร
Thursday, 21 March 2013
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment
Note: only a member of this blog may post a comment.